บันทึกจากครูผู้สอบหลังห้อง
[บันทึกจากครูผู้สอบหลังห้อง — ความเปลี่ยนแปลงและเป็นไปในงานสอบวัดระดับ]
เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ในฐานะครูผู้สอบวัดระดับ รับหน้าที่เป็นปราการด่านแรกให้กับผู้ที่สนใจอยากเดินเข้ามาในโลกของหมากล้อมอย่างจริงๆ จังๆ แต่ละกระดาน แต่ละคน มีความรู้สึกมากมาย หน้าที่ของผมคือจดจำความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้ แล้วมาบอกเล่าสู่กันฟัง
.
ออกตัวไว้ก่อนว่าผมชอบทุกๆ งานที่เกี่ยวกับหมากล้อม ไม่ว่าจะเป็นทัวร์นาเมนท์ปกติ งานแข่งแพร์โกะ ทริปเปิ้ลโกะ โกะลีก โดยเฉพาะงานสอบวัดระดับ เพราะมันทำให้เราเห็น รู้สึก และเข้าใจคนเล่นหมากล้อมด้วยกันมากขึ้น ได้พูดคุยผ่านการเล่น ผ่านการสอบ ผ่านการแข่งขัน ผ่านการแพ้ชนะ
.
ผ่านรอยยิ้ม และน้ำตา
.
งานสอบวัดระดับครั้งนี้อาจเป็นการสอบสนามแรกของหลายๆ คน ต่างก็มุ่งมั่นทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนเข้าสอบ บ้างอยากผ่าน 8 คิว บ้างอยากผ่าน 4 คิว บ้างอยากผ่าน 1 คิว และบางคนอยากผ่าน 1 ดั้ง แต่ถึงอย่างนั้นบางทีสิ่งที่หวังอาจไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ก็ได้ งานสอบวัดระดับถือเป็นอีกหนึ่งงานที่นักเล่นหมากล้อมหน้าใหม่ (หรือหน้าเก่า) ได้เรียนรู้และยอมรับความผิดหวัง สร้างภูมิต้านทานทางจิตใจอันแข็งแกร่ง หล่อหลอมเป็นแรงฮึดให้ก้าวต่อไปบนเส้นทางนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม
.
อย่างที่รู้ๆ กัน การเอาชนะในเกมหมากล้อม เราอาจจะแพ้สนามรบได้ แต่ขอให้ปลายทางเราชนะสงครามได้ก็พอ นี่ก็อาจเป็นสนามรบหนึ่งที่เราพ่ายแพ้ สูญเสียกำลังใจ ผิดหวัง แต่สงครามยังไม่จบ สนามต่อๆ ไปยังมี ให้เราไปท้าทายได้อยู่เสมอ ผมเชื่อว่าความเสียใจและน้ำตาที่เสียไปจะไม่มีทางสูญเปล่าอย่างแน่นอน
.
อีกสิ่งที่เห็นก็คือในช่วงหลังๆ อายุเฉลี่ยของครูผู้สอบเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ มีครูผู้สอบอายุน้อยแต่ระดับฝีมือที่สูงเพิ่มมากขึ้น แน่นอน ไม่จำเป็นว่าจะเป็นครูผู้สอบเด็กหรือผู้ใหญ่ งานแรกๆ ที่เราได้เป็นครูสอบ มักไม่มีการยั้งมือ (หรืออาจเผลอไปบ้าง) ลืมไปว่าที่แห่งนี้ไม่ใช่สนามแข่ง หากแต่เป็นสนามสอบ มันไม่ใช่เวทีโอ้อวดความเก่งของตนเองว่าเราชนะได้เท่าไหร่ แต่เป็นการวัดความใจกว้าง และให้โอกาสผู้อื่น (ถ้าหากว่าเขาคนนั้นสมควรได้รับมันจริงๆ) เพื่อเปิดโอกาสชักนำคนหน้าใหม่ๆ เข้าสู่วงการหมากล้อม
.
แม้ระยะเวลาจะผ่านมาไม่นาน ผมก็ได้เห็นน้องๆ หลายคนจากในวันนั้นมาเป็นผู้ขอสอบ จนตอนนี้มายืนอยู่ในฐานะครูผู้สอบ ก็เริ่มเข้าใจความหมายของครูผู้สอบมากขึ้น ไม่มีควา,\มกระหายในชัยชนะ เลือกทำหน้าที่ของผู้ทดสอบอย่างแท้จริง ยอมรับความพ่ายแพ้ได้ ลดอีโก้ของตัวเองลงไป เข้าใจบทบาทของตนเอง ณ ตอนนี้มากยิ่งขึ้น
มันเป็นงานที่กินเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่มีเรื่องราว เรื่องเล่า ความรู้สึกมากมายเต็มไปหมด เหมือนเราได้เติบโต เรียนรู้ แลกเปลี่ยนกันตลอดเวลา ผมนึกถึงวลีฮิตเมื่อไม่นานมานี้ และคิดว่ามันเหมาะที่จะใช้เหลือเกิน
.
งานสอบวัดระดับไม่ใช่แค่อีเวนต์ แต่คือผู้คน.
ที่มา Thai Go Alumni – TGA