ไม่มีใครทำร้ายเราได้ เรานั่นแหละที่เป็นคนทำตัวเอง

 

 

 

 

 

 

ไม่มีใครทำร้ายเราได้ เรานั่นแหละที่เป็นคนทำตัวเอง

ก่อนหน้านี้ ผมเพิ่งได้เล่นหมากล้อมกับรุ่นพี่คนหนึ่งมา

มันเป็นกระดานที่ทำให้ผมได้บทเรียนหลายๆ อย่าง จนอดที่จะเอามาเขียนในนี้ไม่ได้

หมากกระดานนี้ เริ่มต้นอย่างสวยงาม แต่ตอนจบกลับกลายเป็นฝันร้ายและความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับของผม

ในการเล่นหมากล้อมไม่ว่าจะระดับไหนก็ตาม ถ้าหากเราไม่พลาดท่าเดินผิดพลั้งจนเสียหายตั้งแต่มุมแรก สถานการณ์ของทั้งสองฝ่ายก็มีความเป็นไปได้เท่ากัน คือชนะ 50% แพ้ 50%
แล้วทำไมสถานการณ์กลับเปลี่ยนผัน จากที่คิดว่าดี กลายเป็นไม่ดี จากที่นำอยู่ ทำไมถึงกลายเป็นฝ่ายตามได้

กระดานที่เล่นกัน ต่างฝ่ายต่างครอบครองพื้นที่ใหญ่กันคนละก้อน หากประเมินสถานการณ์ดีๆ อย่างรอบคอบ เกมก็เป็นไปอย่างสูสี หากแต่ผมนั้นเดินหมากด้วยความใจร้อน คิดอยากทำลายพื้นที่ขนาดใหญ่ของฝ่ายตรงข้าม เดินหมากเข้าไปทำลายพื้นที่อย่างกล้าหาญและคาดหวังว่าหมากกลุ่มจะรอดออกไปได้ หรืออาจคิดไปถึงขั้นจับกินหมากบางส่วนได้ด้วยซ้ำ

อาจารย์ของผมเคยพูดเสมอว่า หมากล้อมเป็นเกมของการดูแลตัวเอง และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือเราควรจะต้องรู้จักตัวเอง พื้นที่ชองเราอยู่ตรงไหน เส้นทางที่ทำให้เราชนะคือเส้นทางใด สิ่งที่ผมทำผิดพลาดไปคือการไม่รู้จักประเมินสถานการณ์ให้ดีพอ เพราะในความเป็นจริงโอกาสที่ผมจะชนะยังมีอยู่ แค่เพียงพยายามสร้างและพัฒนาในพื้นที่ที่ตัวเองมี ก็อาจจะเอาชนะในกระดานนั้นได้แล้ว

“สังเกตมั้ย เวลาที่เราแพ้ แพ้เพราะอะไร คู่ต่อสู้หลายๆ คนที่เราแข่งด้วย ฝีมืออาจไม่ได้ต่างกับเรามาก แต่เป็นตัวเองที่ทำร้ายตัวเอง จนเปิดโอกาสให้เขาชนะขึ้นมา”

มันเป็นประโยคที่ทำให้ผมถึงกับไปไม่เป็น หลายๆ กระดาน หลายๆ การแข่งขันที่ผ่านมา ล้วนเป็นตัวผมเองทั้งสิ้นที่ทำร้ายตัวเอง (ซึ่งเราควรเป็นฝ่ายดูแลตัวเอง สะสมความถูกต้องและให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นคนทำร้ายตัวเองถึงจะถูก) แต่เมื่อทบทวนหมากและความทรงจำตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คนที่ทำให้ผมพ่ายแพ้ไม่ใช่ใครเลย ตัวผมเองนั่นแหละที่ทำร้ายตัวเองจนพ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดายในทุกๆ ครั้ง

ผมคิดว่าการนั่งลงสำรวจตัวเอง สำรวจความคิด ใช้เวลาในการวางหมากแต่ละเม็ดให้ช้าลงกว่านี้ อาจจะทำให้เราได้สติขึ้นมาก็ได้ ว่าหมากเม็ดที่เรากำลังจะวางลงไปบนกระดานนั้น มันวางลงไปเพื่อช่วยฝ่ายไหนกันแน่

หมากหนึ่งกระดาน หนึ่งประโยคเตือนสติ ผมคิดว่าความพ่ายแพ้ในวันนั้นคุ้มค่ามากแล้วจริงๆ

ที่มา Thai Go Alumni – TGA